Ads Top

“มะเมี้ยะ” ประวัติศาสตร์ความรักแท้จากดินแดนล้านนา


ในช่วงเทศกาลแห่งความรักเดือนกุมภาพันธ์ อันเป็นวันสำคัญที่คนทั่วทั้งโลกต่างเฝ้าเฉลิมฉลองไม่แพ้เทศกาลวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นาน บทความในเดือนนี้จึงเน้นเรื่องราวความรักอันเป็นอมตะของล้านนาที่แตกต่างกันระหว่างเชื้อชาติ ฐานะและความเป็นอยู่ซึ่งกลายเป็นเรื่องราวบอกต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
หากจะนับเรื่องราวความรักอันถือเป็นตำนานอมตะ เชื่อว่าเรื่องของ “มะเมี๊ยะ” ก็นับเป็นประวัติศาสตร์แห่งความรักที่เกิดขึ้นในดินแดนล้านนาเมื่อ 100 กว่าปีก่อน ซึ่งตราตรึงใจผู้คนมานานนับนาน เรื่องราวของมะเมี๊ยะ ถูกนำไปถ่ายทอดครั้งแล้วครั้งเล่า ผ่านทางเรื่องเล่าจากนิทานปรำปรา หรือแม้แต่ถูกนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์จนโด่งดังมาแล้ว
ตำนานรักของมะเมี๊ยะเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่ เจ้าน้อย (เจ้าสุขเกษม ณ เชียงใหม่) ถูกส่งไปเรียนที่ รร.เซนต์แพทริก ซึ่งเป็น รร.แคธอลิกของฝรั่งที่พม่า โดยแอบส่งไป ขี่ช้างไป เพราะตอนนั้นพม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ
เจ้าน้อยเดินทางไปตอนอายุ 15 ปีเพราะทางบ้านต้องการให้ได้ภาษาอังกฤษเพราะค้าขายกับพม่า เจ้าน้อยเรียนอยู่หลายปี วันหนึ่งขณะไปเดินเล่นที่ตลาด ได้พบกับมะเมี้ยะแม่ค้าสาวสวย ซึ่งเพิ่งมาจากตองอู ขณะที่เจ้าน้อยอายุได้ 19 ปีส่วนมะเมี๊ยะอายุ 15 ปี ทั้งสองจึงตัดสินใจแต่งงานกัน จนเจ้าน้อยอายุได้ 20 ปี เมื่อเรียนจบก็ถูกเรียกกลับเชียงใหม่ เจ้าน้อยจึงได้นำมะเมี๊ยะมาด้วยในฐานะของภรรยา โดยให้ปลอมเป็นเด็กรับใช้ชาย เอาเมียไปแอบในเรือนเล็ก โดยไม่รู้เลยว่าเจ้าพ่อเจ้าแม่ได้หมั้นเจ้าบัวนวลเอาไว้ให้ เมื่อทราบความจริงเจ้าน้อยจึงไม่ยอมแต่งงานและเปิดเผยว่ามะเมี้ยะคือภรรยาของตนเอง
เรื่องนี้รู้ไปถึงสยามประเทศ เจ้าดารารัศมีขณะนั้นถูกส่งตัวไปถวายอยู่ในราชสำนัก ทรงเห็นว่าไม่ควรเลยส่งผู้สำเร็จราชการมาเจรจาบอกว่า เจ้าน้อยจะมีเมีย กี่คนไม่ใช่ปัญหาแต่ต้องไม่ใช่สาวพม่า เพราะว่าคนพม่า ถือสัญชาติอังกฤษ เดี๋ยวอังกฤษจะถือโอกาสแทรกแซง ว่าแต่งงานกับคนพม่าก็ต้องถือว่าเป็นพม่าด้วย ที่สำคัญเจ้าน้อย เป็นเจ้าชายของล้านนา ถูกวางตัวไว้ให้เป็นรัชทายาท เท่ากับว่าสยามอาจต้องเสียเชียงใหม่ให้อังกฤษ ก็เลยบังคับส่งมะเมี้ยะกลับพม่า เจ้าน้อยสัญญาว่าอีก 3 เดือนจะไปรับมะเมี้ยะกลับ ทั้งคู่สาบานกันไว้ว่าจะไม่รักใครอื่น หากใครผิดคำสาบานขอให้อายุสั้น
ตอนที่จะส่งมะเมี้ยะกลับพม่านั้น ตรงนี้เป็นส่วนสำคัญของตำนานถูกถ่ายทอดไว้ในบทเพลงของ จรัล มโนเพชร “ตอนนั้นมะเมี้ยะโพกผมไว้พอจะไปก็ก้มลงกราบเท้า เจ้าน้อยที่ประตูเมือง ชาวบ้านออกมามุงกันทั้งเมืองเพราะได้ยินว่ามะเมี้ยะงามจ๊าดนัก พอกราบเสร็จ ก็เอาผ้าโพกผมออก แล้วสยายผมเอามาเช็ดเท้าเจ้าน้อย จงรักภักดีบูชาสามีสุดชีวิต แล้วก็กอดขาร้องไห้ ทำเอาชาวบ้านที่มามุงดูร้องไห้ ไปทั้งเมืองด้วยความสงสารความรักของทั้งคู่ ”
ต่อมาเจ้าน้อยโดนเรียกไปสยาม พอไปถึงก็ถูกจับแต่งงาน เจ้าดารารัศมีจัดเจ้าบัวชุม ซึ่งเป็นพระญาติ และเป็นสาวที่สวยที่สุดในตำหนักเจ้าดารารัศมี ร่ำลือกันว่าเล่นดนตรีไทยเก่ง ด้วยเหตุนี้เจ้าน้อยก็เลยจำใจแต่งงานกับเจ้าบัวชุม แล้วถูกกักบริเวณอยู่ที่นั่น ตอนนั้นเจ้าพ่อของเจ้าดาราฯ สิ้นพระชนม์ พระญาติทางสยาม ไม่อนุญาตให้เจ้าล้านนาพระองค์ใดในวังขึ้นไปประกอบพิธีปลงพระศพ เป็นเรื่องการเมืองเตะถ่วงการแต่งตั้งเจ้าครองแคว้นคนใหม่เอาไว้ระยะหนึ่ง เจ้าอาของเจ้าน้อยได้ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนครองค์ใหม่ เจ้าพ่อได้เป็นเจ้าราชบุตร(อุปราช) เท่ากับว่าเจ้าน้อยเป็นรัชทายาทอันดับ 3 ถ้าสิ้นเจ้าสองพระองค์นี้เจ้าน้อยจะครองเชียงใหม่ ก็ยิ่งไม่มีทางได้รับมะเมี้ยะกลับมา ขณะนั้น มะเมี้ยะซึ่งรอเจ้าน้อยเกิน 3 เดือนแล้วเจ้าน้อยไม่มาตามสัญญาเลยไปบวชชี เพื่อพิสูจน์รักแท้ว่าจะไม่มีคนใหม่
ต่อมาเมื่อมะเมี๊ยะ ได้ยินว่าเจ้าน้อยกลับเชียงใหม่แล้วเลยมาดักที่คุ้ม แต่เจ้าน้อยไม่ยอมออกมาพบ รอนานเท่าไรก็ ไม่ยอมออกมา ซึ่งจริงๆ แล้วเจ้าน้อยได้แอบดูอยู่ข้างหน้าต่าง ได้แต่ร้องไห้ไม่กล้าสู้หน้าที่ผิดคำสัญญา ก็เลยฝากให้ท้าวบุญสูงพี่เลี้ยงเอาแหวนทับทิม กับเงินอีก 1 กำปั่น ( 800 บาท) ไปให้แม่ชีมะเมี้ยะ ทางด้านแม่ชีบอกว่าไม่มาขอรักคืน เพียงแต่มาถอนคำสาบานให้ เจ้าน้อยจึงฝากมาบอกแม่ชีว่า เงินนี่ทำบุญตามแต่แม่ชีจะใช้สอย เรียกว่าบริจาคในฐานะโยมอุปฐาก ส่วนแหวนให้แทนใจว่า หัวใจอยู่กับมะเมี้ยะเสมอ แม่ชีเสียใจมาก รับไปแต่แหวนไม่รับเงิน
หลังจากที่แม่ชีมะเมี๊ยะเดินทางกลับ เจ้าน้อยเกิดความเสียใจมากเอาแต่กินเหล้าไม่มีใจรักเจ้าบัวชุม ในที่สุดก็ตรอมใจตายหลังจากแต่งงานได้ไม่กี่ปีในขณะที่อายุแค่ 30 ปีเท่านั้นเอง
ในบันทึกบอกว่าสิ้นพระชนม์ด้วยโรคพิษสุรา อีก 6 ปีต่อมาหลังจากพบแม่ชีมะเมี้ยะครั้งสุดท้าย ส่วนแม่ชีมะเมี้ยะ…บวชจนสิ้นอายุขัยเมื่ออายุได้ 73 ปี
ผู้บันทึกเรื่องนี้คือ เจ้าบัวนวล คู่หมั้นคนแรกที่ถอนหมั้นไปหลังจากรู้ว่าเจ้าน้อยมีมะเมี้ยะ ส่วนเจ้าบัวชุมไม่ผิดอะไรเลย แต่สามีไม่รักก็อยู่เป็นข้าบาทจาริกาจนอายุ 81 ปี เจ้าบัวนวลเล่าว่า ตลอดชีวิตของเจ้าน้อยรักผู้หญิงคนเดียวจนสิ้นลม คือ มะเมี๊ยะ หลังจากนั้นเรื่องของเจ้าน้อยกับมะเมี้ยะ ก็ถูกสั่งห้ามพูดถึงไปหลายปีเพราะเป็นเรื่องทางการเมือง ต้องปิดบัง รายละเอียดเลยหายไปเหลือแต่ตำนาน อุปสรรคความรักของเจ้าน้อยกับมะเมี้ยะ ไม่ใช่ฐานันดร ไม่ใช่เชื้อชาติ แต่เป็นเรื่องของการเมือง
ความรักในตำนานมักจบลงด้วยความเศร้าสลด ทั้งที่รักเดียวทั้งสองฝ่าย ทางเจ้าดารารัศมี มีบันทึกไว้แค่ว่าทรงไม่คิดว่าเจ้าน้อย จะปักใจมั่นกับมะเมี้ยะขนาดนี้ เจ้าดารารัศมีทรงคิดว่าหลายปีผ่านไป และได้ภรรยาที่ดีพร้อมก็คงลืม ความรักครั้งแรกได้ แต่เจ้าน้อยไม่ลืมจนสิ้นชีวิต
ถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 100 ปี เจ้าน้อยกับมะเมี๊ยะ คงได้พบกันบนเส้นทางสายดวงดาว ความรักครั้งหน้า ขอให้ไร้อุปสรรคทั้งปวง สมกับที่รอคอยกันมาแสนนาน

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.